วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษของ คุณตุ๊กติ๊ก และ คุณซาลาเปา คู่รัก หนุ่มหล่อ สาวสวยที่จะมาทำให้ทุกคนมีความสุขอิ่มเอมหัวใจและมีรอยยิ้มไปกับทั้งสองคน ยินดีมาบอกเรื่องราวความรักและพาไปชมภาพถ่าย Pre Wedding บนยอดเขาสูง ไกลถึงต่างประเทศกับบรรยากาศงานเลี้ยงพิธีหมั้นสุดอบอุ่นในช่วงปลายปีที่ผ่านมานี้นะคะ
1. เชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตไหม อยากทราบว่าเจอกันครั้งแรกได้อย่างไร
พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด อยู่ดีๆก็นึกถึงเพลงนี้ เราเชื่อในความรักอยู่ทุกที่ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสของพรหมที่ลิขิตขีดโยงให้เราได้มาพบกัน จากนั้นเราจะสานต่อพรหมลิขิต ที่ สถานะ “แฟน” เป็น “คู่ชีวิต” หรือไม่เราลิขิตได้จริง เชื่อเลยว่า ความรักที่ดีมีจริง กับครั้งแรกที่พบกันของเรา คือ สถานที่จัดงานแสดงสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งพี่เปามาออกบูทงานท่องเที่ยว และ ตุ๊กติ๊กมาเป็นพิธีกรในงาน BEAUTY โดยจัดขึ้นในวันเดียวกัน ในระหว่างที่พักเบรค ตุ๊กติ๊กได้เดินเล่นไปเรื่อยๆ และเห็นบูทท่องเที่ยวหนึ่งน่าสนใจ เลยเข้าไปถามรายละเอียด Package ที่พัก พออยู่ระหว่างการตัดสินใจแล้วคุณเปาก็เข้ามาแถมเราเยอะไปหมด ในขณะที่ทีมงานคนอื่นๆ ไม่แถม Complementary ขนาดนั้น จากนั้นเค้าก็ขอเบอร์เพื่อ Service หลังการขาย (ในใจเราก็แบบดีจังเลยพ่อคุ๊ณณ) คือไม่รู้ตัวเลยว่าเค้าเห็นเราตั้งแต่เช้าแล้ว เพราะพี่เปาเดินไปผิดโซน ที่นี้พอเห็นเราเดินมา (ซึ่งปกติจะไม่เดินไปไหนเวลามาทำงาน แต่รอบนี้แปลกใจตัวเองเหมือนกันอยากเดินเล่นเฉย) เค้าเลยสะกิดเพื่อนและได้วางแผนให้พี่เปาได้เข้ามาปิดการขายจึงทำให้เราได้คุยกัน และก็ปิดการขายได้จริงๆแหละ 555
2. หากเปรียบความรักเป็นสีสัน ต่างๆ คู่เราจะเป็นสีอะไร เพราะอะไร
คู่ของเราเป็นสี “Light Blue” แน่นอนค่ะ เราทั้งคู่ชอบสีโทนเย็นเหมือนกัน สีฟ้าเป็นสีประจำวันเกิดของตุ๊กติ๊ก และสีน้ำเงินอมฟ้าเป็นสีที่พี่เปาชอบ เวลามองขึ้นไปบนท้องฟ้าจะรู้สึกสบายตา สบายใจ ท้องฟ้าบางวันสีเข้ม บางวันสีอ่อน เหมือนกับความรักของเราทั้งคู่ที่เวลาอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง บางวันต้องเข้มแข็งกับระยะทางที่ห่างไกลกัน (พี่เปาทำงานต่างจังหวัด) บางวันอ่อนโยนในยามที่เราได้มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพียงสั้นๆทุกปลายเดือน และเรามักสร้างจินตนาการผ่านก้อนเมฆบนท้องฟ้าด้วยกันเสมอ
3.ทราบว่าไปถ่ายภาพ Pre wedding ไกลถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีเรื่องราวอะไร สนุกๆ หรือประทับใจซึ่งกันและกันมาเล่าบ้าง
น่าจะต้องเล่า 3 หน้ากระดาษ A4 เลยค่ะ 55 เกริ่นก่อนว่าเราไปยุโรปครั้งแรกในชีวิต เรียกว่า ไปเพราะการชวนแบบขำๆของ พี่อาลี่ พี่หนุ่ม Impressshot ในงานแต่งหนึ่ง เพราะพี่ๆเค้าจะไปพักผ่อนอยู่แล้ว เราก็ใจง่ายแหละ อยากได้รูปสวยๆ ตัดสินใจไป นึกว่าไปเชียงใหม่ 3 วัน 4 คืน ขนไปทุกอย่าง จัดกระเป๋าแบบงุนงง โชคดีที่ พี่สาวซึ่งเป็นไกด์ไปด้วย จึงมีการรื้อและจัดอุปกรณ์ทั้งหมดใหม่ แต่งหน้ากันเอง ทำผมกันเอง เราเลือก Location เป็น Zermatt หมู่บ้านเล็กที่น่ารัก กับร้าน Chocolate แสนอร่อย และบนเทือกเขา matterhorn ที่ยังคงปกคลุมด้วยหิมะในบางส่วน เราทั้งหมด 5 คน ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นวันที่ จัดวิ่งมาราธอนประจำปี และฤดูที่เดินทางไปเป็นหน้าร้อนของสวิสเซอร์แลนด์ เรียกว่า “ผจญภัย” การปีนขึ้นลงเขาพร้อมชุดแต่งงานและรองเท้าส้นสูงของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย และการรอจังหวะให้ก้อนเมฆไม่บังยอดเขาก็เป็นเรื่องวาสนาเช่นกัน ถือว่าเราทำบุญมาดีเห็นชัดแจ๋ว พอเราปีนขึ้นมาจนถึงยอดเขาที่เป็นจุด Finish ของงานวิ่ง ต่างชาติปรบมือกันเกรียวกราว เราตะโกนด้วยความภาคภูมิใจ Thailand และในความพีค คือชุดที่เตรียมถ่ายบนยอดเขาเป็นซีทรู อากาศประมาณ 9 องศา และลมแรงหอบตุ๊กติ๊กไปได้อย่างง่ายดาย ฟิลลิ่ง ณ เวลานั้นคือยอมแล้วนะคะ แบบไม่ถ่ายก็ได้ แต่พี่แก้วที่เป็นไกด์ พี่หนุ่ม พี่อาลี่ Impressshot เป็นกองเชียร์ จัดทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว นึกว่าอยู่กองประกวด ทั้งถุงทราย เสื้อคลุม เติมปาก เปลี่ยนผม แต่พอเห็นภาพแล้วก็ชื่นใจ เฮ้ย!! เราสามารถมีหน้าเฟี๊ยตท่ามกลางเทือกเขาหิมะ ฝนปรอย และลมแรงแทบหอบร่าง และ พี่เปา ผู้ซึ่งถือกระเป๋า (ไม่สามารถลากได้) ประมาณ 20 กิโลขึ้นลงเขา ดูแลตุ๊กติ๊กดีมากกกก ปกติที่เปา Take Care เก่งอยู่แล้ว เรารู้สึกเลยค่ะว่าเลือกคนไม่ผิด เพราะเป็นทั้ง Leader และทุกอย่าง พยายามทำทุกสิ่งให้เราไม่เหนื่อย รีดชุดแต่งงาน จัดเครื่องสำอาง ม้วนผม เคลียร์แฮร์พีช บีบนวด ฯลฯ และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่พีคสุดคือตอนลงรถรางไฟฟ้า คือ รางไฟฟ้าไหม้ เพราะอากาศร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้เราติดอยู่ในรถรางเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีแอร์ใดๆ เพราะปกติอากาศเย็นทั้งปี แต่พี่ๆก็ไม่ถอยลงมาถ่ายในหมู่บ้านอีก 2 ชุดใหญ่ไฟกระพริบ จนถึงเกือบ 2 ทุ่ม ที่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ แค่ Pre Wedding ลงรูปได้จนถึงลูกเข้าอนุบาลเลยหล่ะค่ะ
4.ด้วยความที่เจ้าสาวคนสวยทำงานและอยู่ในแวดวง wedding มานาน ดูแลจัดงานแต่งงานให้คู่อื่นมาหลายงาน พอถึงงานตัวเองกดดันไหมวางแผนเตรียมงานอย่างไร
กดดันตรงทำงานในวงการ Wedding เนี่ยแหละค่ะ เพราะ ทั้งลูกค้า และ เพื่อนๆก็คอยชมงานของเรา และตัวเราทั้ง 2 คนเองก็เห็นงานมาเยอะมากกก เกิดความฟุ้งไปอี๊ก มีพี่ๆในวงการให้ความช่วยเหลือกันอย่างล้นหลาม แน่นอนค่ะว่าการเลือกใครสักทีมมาดูแลเรา ก็เกรงใจบางทีมที่ทำงานด้วยกัน และสนิทกับทุกทีมตัดสินใจยากน๊า เลยเลือกทีมแรกที่ให้โอกาสเราเข้ามาอยู่ในวงการนี้ เริ่มจากเลือกสถานที่ก่อนเลยค่ะ AUBE คือลงตัวมาก ด้วยความที่เป็นสถานที่ใหม่ เรียบแต่เก๋ ใกล้ทั้ง 2 ครอบครัวเดินทางสะดวก และได้ I Do Catering มาเป็น Partner เรายิ่งไม่ลังเล นอกจากความสวยงามแล้วรสชาติยังติดลิ้นติดใจ มากกว่าอาหารคือความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะ เรา 2 คนจริงจังเรื่องอาหารมาค่ะ ต้องเพียงพอ สวยงาม และรสชาติมีความเสน่ห์ปลายจวัก
พอ 6 เดือนก่อนวันงานเราเลือกทีม SEASON RAY x GRAPHICBYSANDY ทำงานร่วมกัน ซึ่งไม่ผิดหวังเลยค่ะ 1 ยักษ์ใหญ่ สายดีไซน์ เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง และ อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ ที่มีความเก๋าเชี่ยวชาญด้านดอกไม้ มาผสานเป็นหนึ่งเดียวถ่ายมุมไหนก็สวย ยืนกับเสาเฉยๆยังสวย ไม่เว่อร์เนอะ
ส่วนช่างภาพนี่เป็นสัญญาใจเลยคือ ต้อง Impressshot เพราะมีโอกาสได้ร่วมงานกันบ่อยมากๆๆ ประทับใจการดูแลตั้งแต่ไปถ่าย Pre Wedding Energy ของพี่ๆไม่มีตกเลย และ ได้พี่ท๊อป เจ้าของ Panisto ที่ไม่รับงานเดี่ยวเลยมาดูแลด้าน Candid ให้ยิ่งใจพองโตเข้าไปใหญ่ ส่วน Cinema ต้องให้ทีมแถใต้น้ำ อย่างพี่นิ้ว พี่เป๊บซี่ MILDROOM มาปั้นให้เท่านั้นคร๊า จริงๆมีช่างภาพหลายทีมที่ดีมากๆ เลือกยากเหมือนกันค่ะ
เราใช้เวลาวางแผนกันไม่นานนะคะ เพราะ วางแผนให้ลูกค้าคู่อื่นๆก่อน 555 ด้วยเรามีในใจแล้วทั้งชุด ที่ตัดเย็บใหม่ด้วยดีไซน์เนอร์ชื่อดังด้านเวทีประกวด ก็จะไม่ได้ Wedding ซะทีเดียว มีความเป็น Western Fashion กับ Minimal รวมกัน ส่วนชุดไทยโชคดี ได้รู้จัก amitabridal ด้วยความที่อยากใส่ชุดไทยที่ไม่สไบซะทีเดียว และใส่แป๊บเดียวด้วยเลยถูกใจที่นี้ค่ะ ราคาดี ดูแลดี หน้าผมก็ต้อง พี่ชินและน้องจี ผู้ซึ่งมีความใจเย็น อยู่ในศีลธรรม ชวนทำบุญ เข้าวัดตลอด มีสมาธิในการแต่งหน้ามากถึงแม้เจ้าสาวจะ Hyper เบอร์ไหนก็ตาม
ส่วนพิธีกร พี่ชายที่แสนดีอย่างพี่เกิดต้องมาเท่านั้น #พิธีกรร่วมสมัย เจ้านี้เจ้าเดียวนะคะ แค่มองตาก็รู้ใจน้องแล้ว และแน่นอนค่ะในส่วนของการรันงานทั้งหมดก็ต้องใช้ทีมตัวเองอ่ะเนอะ ด้วยความที่น้องๆจะรู้ใจเราอยู่แล้ว จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ PeakPitchs ถึงแม้จะเป็นทีมนี้แต่สิ่งที่เราต้องมีให้ครบถ้วนคือข้อมูลและ Contact ทุกอย่างอย่างละเอียด เพราะเมื่อถึงเวลาเราไม่สามารถทำอะไรในเวลาเดียวกันได้ กล่าวคือเราไม่สามารถเป็นเจ้าสาวพร้อมกับรันงานไปพร้อมๆกันได้ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมไป คงไม่สวยแน่ๆถ้าทั้งงานมีรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาว วิ่งไปมา ใส่วอ และลุกลี้ลุกล้น หรือทุกคนวิ่งมาถามแต่บ่าวสาว โดยที่ไม่มีเวลารับแขกและดื่มด่ำกับความสวยงามของพิธีการ
และปิดท้ายด้วยเพื่อนเจ้าสาว อีกหนึ่งสีสันของงาน ที่ตุ๊กติ๊กตั้งใจมาก ทั้งเลือกผ้า ทั้งแบบชุดและสีชุดสำหรับ “แก๊งส์แครอท” เพื่อนเจ้าสาวทำให้งานดูแกรนด์ขึ้นด้วยความเต็มที่ของเพื่อนๆด้วยไม่ว่าจะแดดร้อนขนาดไหนก็สู้แดดรอกั้นประตู แอบบอกว่าสายกั้นอลังการด้วยความพู่และใบไม้ที่พ่นสีพิเศษให้เข้ากับธีมงาน เสริมให้เพื่อนเจ้าสาวดูน่ารักเข้าไปอีก ทั้งหมดเกือบ 20 คนได้เลยและทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ
5.อยากให้เล่าบรรยากาศ และแนวคิด พิธีการ งานเลี้ยงที่ผ่านมาเห็นว่ารูปแบบงานต่างจากงานทั่วไปคือ แขกมาถึงงานแล้วให้ทานอาหารกลางวันให้อิ่มก่อนเลย ค่อยไปเริ่มพิธีการสำคัญช่วงบ่ายต่อจากนั้น
เกิดจากฤกษ์ที่ได้จากซินแสล้วนๆเลยค่ะ เดิมไม่มีพิธีสงฆ์ เพราะเป็นฤกษ์แบบจีน แต่ด้วยฝั่งเจ้าสาวเป็นคนไทยจึงขอความเป็นสิริมงคลสักหน่อย เวลาจึงออกมาค่อนข้างแปลก และด้วยความที่เราอยากนั่งรับประทานอาหารร่วมกันทุกคน ทางพี่เก่ง I do จึงแนะนำให้มีซีนเล็กๆเพื่อขอบคุณแขกและรับประทานอาหารร่วมกันก่อนเริ่มพิธีการ เพราะบางทีแขกบางท่านไม่สามารถอยู่จนจบพิธีการได้ จึงใช้ช่วงนี้กล่าวขอบคุณไปเลยเหมาะสมกว่าค่ะ
10.00 เริ่มพิธีสงฆ์ และจะมีเวลาว่างเกือบ 2 ชั่วโมงก่อนแห่ขันหมาก เราจึงใช้เวลานั้นให้แขกรับประทานอาหารให้อิ่มท้องก่อน บอกเลยว่าเราให้ความสำคัญเรื่องนี้มากนะคะ พบมาหลายงานในการคำนวณเรื่องอาหาร และแขกที่มาไม่พร้อมกัน ทำให้คนที่มาท้ายๆได้ทานไม่เต็มที่ แต่ไม่เกิดขึ้นกับงานเราเลยค่ะ เพราะทุกคนมากันตั้งแต่ 10 โมง เพราะมาร่วมพิธีสงฆ์ด้วย ทำให้ทุกคนได้รับประทานอย่างเต็มที่ เราปรึกษากับพี่เก่ง I do เลยว่าเหลือดีกว่าขาด ถ้าแขกหิวคงไม่เป็นการดีแน่ๆเพราะพิธีการเราแน่นมากกก บอกเลยว่าใช้สถานที่คุ้มค่ะเกือบทั้งวันจริงๆ
11.00 แขก Enjoy มีอาหารมีทั้งบุฟเฟ่ต์ และ Food Station เพื่อความหลากหลาย แขกชมกันใหญ่เลย ถึงความเหมาะสมของอาหารที่มีครบทุกประเภท และสนุกกับการเลือกหลากหลายเส้น พร้อมทั้งเลือกซอสสำหรับ Station สปาเกตตี้ แนะนำเลยค่ะ อะไรที่สามารถ Customize มัก Happy เสมอ
13.00 เราก็เริ่มทำพิธีการต่างๆ แขกก็นั่งฟังเพลินๆ ในห้องพิธีการ และก่อนจะถ่ายรูปก่อนเสร็จงาน เรากระตุ้นความกระปรี้กระเปร่าโดยมี Station เครื่องดื่มตระกูลชานม และ น้ำผลไม้แบบใส่แก้วโลโก้งานเป็นพร๊อบเก๋ๆก่อนกลับบ้านกัน อารมณ์ Afternoon Tea ในสวนที่บ้าน เราก็สังเกตว่า เอ๊ะแขกเดินไปไหนกัน คุณพระ!! มุงซุ้มชานมจ้า
ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้ Fix ฤกษ์เป๊ะ แต่อยู่ในช่วงฤกษ์ดีของเราทั้งคู่ เช่น ฤกษ์การสวมแหวน เราเน้นที่ฤกษ์นี้อย่างเดียว ที่เหลือก็ไหลๆ เพื่อความสบายใจของเราเองและอยากค่อยๆซึมซาบถึงความเอ็นดู และความรักที่ทุกคนมีให้ให้เราด้วย
แน่นอนค่ะว่าไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเราไปซะทุกอย่าง แต่สิ่งที่จะ Control ทุกอย่างให้เป็นไปได้มากที่สุด คือ การใส่ใจรายละเอียดและเตรียมข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อนวันสำคัญอย่างน้อย 1 เดือนล่วงหน้า เราต้องโยนทุกอย่างให้คนที่เราเตรียมไว้รับผิดชอบสิ่งนั้นๆ บอกเลยค่ะว่าวันงานแค่เรายิ้มและรับแขกก็ไม่สามารถจัดการใดๆในช่วงเวลาเดียวกันได้
ถ้าไม่ได้จ้างแพลนเนอร์ เตรียมงานล่วงหน้านานๆนะคะ เพราะกว่าเราจะเลือกสถานที่ที่ชอบ ช่างภาพ ช่างหน้าผม ฯลฯ ใช้เวลาค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันฤกษ์ดี นอกจากเราถูกใจอย่าลืมว่า คู่อื่นๆก็มีถูกใจเจ้าเดียวกับเราได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อคุมงบประมาณให้ไม่บานปลายจนเกินไป ควรวางแผนเรื่องนี้ก่อนเลยค่ะ เพราะเราจะฟุ้งอยู่ในโลกของเราในช่วงแรกๆ
ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เราสร้าง Event หนึ่งเพื่อให้ทุกคนมาร่วมยินดีกับเรา เป็นโอกาสเดียวที่เราจะควบคุม Production ทุกอย่างโดยเราเอง อย่าให้ความไม่ถูกใจเล็กๆน้อยๆ ในการจัดงานมาบั่นทอนของรักของเรานะคะ แนะนำให้เลือกในสิ่งที่เราและว่าที่สามีชอบ อาจจะมีบ้างที่เห็นไม่ตรงกัน แต่จะมีตรงกลางเสมอค่ะ
Thank You
BRIDE : KORNTIP THICHACHART (TOOKTICK)
กรทิพย์ ทิชาชาติ (ตุ๊กติ๊ก)
GROOM : SUKIT APINANTANAKORN (SALAPAO)
สุกฤษฏ์ อภินันท์ธนากร (ซาลาเปา)
DESIGN : @GRAPHICBYSANDY
PRODUCTION : @SEASONRAY
MAIN PHOTOGRAPH : @IMPRESSSHOT
CANDID : @PANISTO.PHOTOGRAPHER
CANDID DECORATION : @LOVEROOMWEDDING
MAKE UP : @CHINPHOTO_MAKEUP89998
HAIR : @GEE_JIWAT
MC : @MCBYKERD
CINEMA : @MILDROOM
CATERING : @IDOCATERING
VENUE : @AUBEVENUE
BRIDE DRESS : @dondonprachaya
THAI DRESS : @amitabridal
ORGANIZER : @PeakPitchs