เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ที่มีความประณีตงดงาม เต็มไปด้วยรายละเอียด กับแรงบันดาลใจที่มากล้น เต็มไปด้วยพลังแห่งความสุข ที่อยากจะขอแบ่งปันให้กับทุกคน
ความรัก เป็นสิ่งสวยงาม ของคนสองคน ทั้งคู่ มีนิยามความรักของตัวเองอย่างไรบ้าง
สำหรับคู่ผมเป็นสิ่งที่ยากที่จะจำกัดคำนิยามเลยครับ เราสองคนคบกันมีแนวความคิดที่ค่อนข้างเป็นเหตุเป็นผลเราแค่รู้สึกว่าคนคนนี้ที่จะอยู่ดูแลซึ่งกันและกันในชีวิตที่เหลือ ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ร่วมกันคิดร่วมกันแก้ไข ให้เกียรติซึ่งกันและกัน คอยให้กำลังใจเวลามีทุกข์ และร่วมกันชื่นชมยินดีเมื่อเวลาเรามีความสุข
ทราบมาว่า การจัดงานครั้งนี้ ทั้งสองคนตั้งใจมาก ๆ เต็มไปด้วยรายละเอียดงานที่พิเศษ บ่งบอกความเป็นตัวตนของทั้งคู่ อยากให้เล่ารายละเอียดถึงธีมงานต่าง ๆว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่ผมเป็นทั้งสถาปนิก มัณฑนากร และออกแบบงานดอกไม้ ซึ่งผมจะชอบออกแบบชิ้นงานต่าง ๆ ที่แสดงความเป็นตัวตน และผมอยากจะทำงานชิ้นนี้เพื่อมอบให้เจ้าสาวของผมเป็นของขวัญวันแต่งงาน ซึ่งผมมีภาพงานแต่งในฝันตั้งแต่เด็กนะจากความที่เราชอบงานออกแบบ แต่ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆตามช่วงอายุ แต่คือโดยส่วนตัวเราไม่ชอบงานแต่งงานที่เป็นสีขาว เรียบ ๆ อยู่แล้วครับ ด้วยสายงานที่เราทำ สไตล์ที่เราชอบ ชอบสีสัน เราชอบงานสไตล์ More is More เล่นกับสีเป็นอะไรที่ผมชอบมาก ชอบมากชนิดที่ว่าเรานั่งเทียบเฉดสีกับแผ่นเทียบเฉดสีเลยครับ 5555
ผมออกแบบงานแต่งครั้งนี้โดยยึดความเป็นจริงในชีวิตที่เราทั้งคู่ผ่านมาครับ เราเกิดที่ไหน เราเติบโตที่ไหน เราผ่านอะไรมาเรานำมาใช้เป็นธีมงานทั้งหมด ลงมือทำทุกอย่างเอง เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีความหมาย คือมีความเป็นตัวตนของผม และเจ้าสาว แนวคิดรวมของงาน เราใช้ความชอบส่วนตัวของเราทั้งคู่ เราชอบดอกไม้ คุ้นเคยอยู่กับงานดอกไม้ เลยนำเอาดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ ประจำในแต่ละเมืองที่ผม และเจ้าสาวมีความสัมพันธ์ มาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบ อย่างราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำประเทศไทย, ทองกวาว เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ที่ผมเกิด, ผมเติบโต และศึกษาที่ประเทศจีน ดอกโบตั๋น คือดอกไม้ประจำประเทศจีน และกุหลาบทิวดอร์ คือดอกไม้ประจำประเทศอังกฤษที่เจ้าสาวเคยศึกษาอยู่ที่นั่น ดังนั้นศิลปกรรม และวัฒนธรรมของสี่สัญชาติจึงถูกนำมาผูกรวมกันและแทรกอยู่ทั่วงาน
กว่างานจะออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบ อย่างนี้ เบื้องหลังต้องวางแผน เตรียมงาน ใช้ระยะเวลายาวนานแค่ไหน
ผมใช้เวลาออกแบบ วางแผน และทำงานฝีมือต่างต่างมา 1 ปีเต็ม พยายามลบภาพงานแต่งงานที่เคยมีมาจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใช้ความประณีตสูง เราตีความงานแต่งงานของเราโดยเริ่มศึกษาแกนหลักที่แท้จริงของพิธีมงคลสมรสโดยที่ไม่ได้ยึดกับรูปแบบการจัดงานที่ส่งต่อต่อกันมาในปัจจุบันซึ่งในบางครั้งแม้กระทั่งเจ้าสาวของผมหรือผู้ใหญ่ที่ปกติไม่ได้หลงใหลงานออกแบบจะไม่เข้าใจในผลลัพธ์ที่มันจะออกมาซึ่งเค้าก็จะมีภาพงานแต่งงานในหัวจากสิ่งที่เค้าพบเจอมา แต่ผมต้องขอบคุณเจ้าสาวของผมที่ไว้ใจ และสนับสนุนสิ่งที่ผมกำลังจะทำให้ ซึ่งผมก็มองรูปแบบงานจากความเป็นตัวตนของเค้า และผมเห็นเค้ามีความสุขในวันงาน นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม
แต่ก็ต้องขอแอบเล่าสักนิด ว่ากว่าจะมาถึงวันงาน และมีงานที่สมดั่งใจได้ ก็มีอุปสรรคมากมายในช่วงเวลาที่เราเตรียมงานครับ ทั้งสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นเรากังวลไม่น้อยในรูปแบบของงานที่จะเกิดขึ้น ทำอย่างไรให้สวยงาม ประณีต ในขณะเดียวกันต้องสะอาดปลอดภัย 100% สำหรับแขกที่จะให้เกียรติมาในงาน และเหตุการณ์ที่ทดสอบสติ และการแก้ไขปัญหาที่สุดของผมคือ เมื่อก่อนวันจัดงานจริง 1 เดือน บ้านที่ผมพักอาศัยมีช่างมาซ่อมท่อน้ำ ทำน้ำรั่วเข้ามาจากฝ้าเพดานบ้าน ทำให้งานปั้นงานประดิษฐ์ในส่วนที่เตรียมไว้สำหรับพิธีการเสียหายเกือบทั้งหมด ตอนนั้นเครียดมากเลยครับ ซึ่งเจ้าสาวเค้าก็คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด แต่เพราะเราทำมาเองตั้งแต่ต้น ทำให้ทำครั้งใหม่ไปเร็วกว่าเดิมเยอะ เลยออกมาตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ครับ
ในส่วนของงานพิธี ก็มีความประณีตงดงามมาก ที่โดดเด่นคือพานขันหมากในพิธีมงคลสมรส ก็ดูสวยแปลกตามีแรงบันดาลใจอย่างไร
ในส่วนของพานขันหมากออกแบบ และทำขึ้นมาเองทั้งหมด เป็นพานแบบประยุกต์ ได้แรงบันดาลใจจากงานคลุมปักของไทย เกลียวดอกโบตั๋น โทนสีชมพูและเขียว เพิ่มดีเทลด้วยผึ้งมงคล 28 ตัว จากดอกบานไม่รู้โรยเกาะอยู่ที่พานเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ด้วย ซึ่งตัวผึ้งนั้นได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงจีน เถียนมีมี่ ซึ่งเจ้าสาวขอให้ผมสอนร้องเพลงจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งคำว่า เถียนมีมี่ ภาษาจีนแปลว่า หวานปานน้ำผึ้ง ทุกอย่างจึงมีนัยยะที่สื่อถึงกันหมด
ภาพรวมทั้งงานเต็มไปด้วย โลโก้ การ์ดเชิญและสัญลักษณ์ ที่มีความหมาย อยากให้เล่าถึง ที่มา ในการออกแบบและแรงบันดาลใจ
โดยส่วนตัวผมชอบงานคลาสสิค และชอบศึกษาตราสัญลักษณ์โบราณต่างต่างในแต่ละยุคแต่ละสมัยทั้งใน และต่างประเทศ และชอบการใช้สัญลักษณ์ภาพเป็นตัวแทนของบ่าวสาว และแฝงไปด้วยที่มาที่ไปของเราทั้งสองคน ผมชอบงานศิลป์ที่มีนัยยะแฝง แทนที่จะมากล่าวกันยาวเหยียดในงานหรือทำอักษรป้ายชื่อแจ้งบนเวที สัญลักษณ์ของงานมงคลสมรสของผมจึงถูกใช้ในทุกรูปแบบ จะเห็นได้จากห้องจัดเลี้ยง การ์ดเชิญ เมนูอาหาร รายชื่อแขกหรือแม้กระทั้งของชำร่วย เราใช้สัญลักษณ์เดียวเพื่อบ่งบอกและยืนยัน ID ของบ่าวสาว ตราสัญลักษณ์นี้ผมให้ชื่อว่า La flue de l’amour ดอกไม้แห่งความรัก ดอกไม้จากสี่แผ่นดินที่กล่าวมาข้างต้น เกลียวเชือกล้อมเพชรแปดเม็ดหมายถึง มงคลแปดประการ ด้านข้างประดับสัตว์ในเทพนิยายปรัมปราที่ผมนิยามสัตว์ขึ้นมาใหม่ เป็นลูกครึ่งระหว่างนกยูงกับกระต่ายถือใบวาสนา และนกยูงกับมังกรถือใบมะยม ซึ่งเป็นการนำสัตว์ประจำปีเกิดของบ่าวสาวมารวมกับนกยูงซึ่งชาวล้านนาเชื่อว่า นกยูง เป็นสัญลักษณ์มงคลของการสมรส พร้อมปีค.ศ.เกิด ผมแอบใส่กิมมิคเล็กน้อยเป็นถั่ว(นัท) และริบบิ้น(โบว์) เป็นชื่อสแลงของบ่าวสาวลงไปให้ดูน่าค้นหา
จุดถ่ายรูป ฉากหลัง สวยงาม ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นมาก พร้อมกับ Magic Carpet พรมผืนสวย มีความหมายพิเศษอะไรไหม
ในพิธีฉลองมงคลสมรส บนเวที ผมใช้งานเขียนผ้าใบโทนสี Blue & white เป็นภาพที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต มีพื้นหลังเป็นเมือง 4 เมืองที่เราเคยอยู่ จากล้านนาเชียงใหม่ถึงสยาม จากเอเชียถึงยุโรป โดยในภาพวาดเป็นสะพานแห่งรักเป็นตัวเชื่อม โดยใช้เรือสื่อความหมายของการเดินทางที่แม้ว่าเราจะอยู่ต่างที่ก็ยังเชื่อมถึงกันได้ ฉากถ่ายภาพก็เป็นงานเพ้นท์บนผ้าแคนวาสเล่าเรื่องราวขยายความจากตราสัญลักษณ์และนำเอาตราสัญลักษณ์มาทอลงบนพรม และนำมาใช้ในงานพิธีด้วย ที่ผมเรียกมันว่าพรมวิเศษเพราะว่าหากผมย้อนกลับมามองพรมผืนนี้ภาพของวันแห่งความสุขมันก็จะกลับมาชัดเจนทุกครั้ง ซึ่งเมื่อจบงานผมจะนำไปไว้ในเรือนหอเพื่อเป็นความทรงจำของเราสองคนเพื่อทดแทนการใช้ดอกไม้จำนวนมากมากที่ใช้แล้วทิ้ง และยังเป็นการตกแต่งบ้านไปในคราวเดียว วิเศษสมชื่อมั้ยล่ะครับ!!
ทราบมาว่าทั้งคู่จัดออกแบบและตกแต่งดอกไม้บนโต้ะอาหารด้วยตัวเองทั้งหมด ดูสวยงามมาก แล้วรูปแบบอาหารที่เลือกเสริฟแขกในงานเป็นแบบไหน
สำหรับช่วงงานเลี้ยง เราเลือกเสิร์ฟเซทอาหาร และจัดโต๊ะแบบ Long Table โดยจัดรูปแบบงานแบบ sit down dinner ได้มู้ดโทนที่หรู ๆนิด ๆ และตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบันในเรื่อง New Normal ซึ่งก็ได้คุณเก่ง ido Catering มาช่วยเรื่องcatering และ food decorating เราปรึกษาคุณเก่งในทุกเรื่องทั้งรูปแบบ และความสะอาดปลอดภัย เรามีการเลือกเมนูกันก่อน เลือกสี และประเภทอาหารเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานของเรามากที่สุด ซึ่งเราสองคนแฮปปี้มากที่ได้ร่วมงานกับคุณเก่งทุกอย่างเติมเต็มให้งานสมบูรณ์ แขกผู้ใหญ่ฝากชมเรื่องอาหาร ก็ขอขอบคุณคุณเก่ง และทีมงาน ido ทุกคนครับผม
มีอะไร อยากจะฝากหรือแนะนำถึง คู่รักบ่าวสาว ที่มีความเป็นตัวเองสูง และอยากจะออกแบบ รูปแบบธีมงานด้วยตัวเอง บ้าง
“งานที่ดี ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือย เลือกที่เหมาะสม และเป็นตัวเรา งานก็จะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น” สำหรับผม งานของเราเอง ใส่ตัวตนของเราเป็นแกนหลัก ใส่สิ่งที่เป็นตัวเองลงไป เพราะทั้งหมดคืองานของเรา ผมว่าในสถานการณ์ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้ของฟุ่มเฟือย เพียงแค่วางแผนทุกอย่างให้ดูเหมาะสม อบอุ่น เป็นเราที่สุด งานก็จะออกมาดีเอง ยิ่งถ้าการออกแบบวางแผนที่ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว บางครั้งความหรูหราที่ใช้งบประมานสูงมากก็อาจจะถูกทดแทนด้วยดีเทลต่าง ๆ ก็สามารถออกมาสวยงามได้เช่นกัน อีกทั้งของบางอย่างที่เรานำมาใช้ในงานเราสามารถนำไปต่อยอด และใช้ประโยชน์ได้อีก
Thank You
เจ้าบ่าว คุณ ณัฐพงศ์ หวังอภิรักษ์กิจ
เจ้าสาว คุณ กานต์พิชชา ตรีสุคนธ์
Venues : Villa de Bua
Catering : I Do Catering
Photographer : U inspire me
Designer : ณัฐพงศ์ หวังอภิรักษ์กิจ IG : nutwang